Looloo Technology บริษัทที่มุ่งใช้ Deep Tech สร้าง Impact เปลี่ยนโลกใบนี้ให้ดีกว่าที่เคย

หลังจากที่บทความก่อนเราได้ทำความรู้จักกับ Deep Tech กันไปแล้ว วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับหนึ่งในบริษัท Deep Tech Startup สัญชาติไทยอย่าง Looloo Technology ที่แอบซ่อนความนวัตกรรมล้ำๆ อยู่ภายใน KX Knowledge Xchange

พวกเขาเริ่มต้นจากพนักงานหลักหน่วยเพียงหยิบมือเดียวในห้องเล็กๆ จนกลายเป็นมีสมาชิกในทีมถึงหลักสิบ และกลายเป็นทีมที่มีสมาชิกหลักครึ่งร้อยภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีกว่านับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา และจากที่ทราบมาดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขาก็มีแผนที่จะขยายทีมและอัปสเกลองค์กรให้ใหญ่ขึ้นกว่าที่เคย อันเนื่องมากจากโปรเจคที่ล้นมือและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบท่ามกลางวิกฤติการณ์ไวรัสโควิด-19 หลังจากก่อตั้งมาได้เพียงแค่ปีเดียว

ทำความรู้จักผู้ก่อตั้งกับโปรไฟล์ระดับโลกและจุดเริ่มต้นของพวกเขา

Looloo Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดยกลุ่มเพื่อน 3 คน โดยมี Silicon Valley เป็นจุดเชื่อมสำคัญที่ทำให้พวกเขาทั้งหมดได้รู้จักกันในอดีตจนกลายมาเป็นผู้ก่อตั้งคนสำคัญของ Looloo Technology ในปัจจุบัน มาทำความรู้จักกับพวกเขาทีละคนกันเลยดีกว่า

Co-founder คนแรกคือ คุณ ปริชญ์ รังสิมานนท์ อดีตผู้ดูแลกองทุนสำรองระหว่างประเทศให้กับประเทศสิงคโปร์ที่ Government of Singapore Investment Corporation (GIC) หนึ่งในกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Co-founder คนที่สองคือ ดร. ธรรมนิติ์ พิพัฒน์ศรีสวัสดิ์ อดีต Senior Software Engineer ที่ Google หนึ่งในผู้ร่วมพัฒนา Google Assistant เวอร์ชั่นภาษาไทย นอกจากนี้แล้วเจ้าตัวเองก็ยังผลงานวิจัยทางด้าน ปัญญาประดิษฐ์อยู่อีกมากมายด้วยเช่นกัน

Co-founder คนที่สามคือ คุณ สุปิติ บูรณวัฒนาโชค ผู้คร่ำหวอดในวงการเทคโนโลยีมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี เขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ที่เด็กไทยทุกคนต่างรู้จักอย่างเว็บไซต์ Dek-D.com และเคยผ่านการทำงานใน Silicon Valley อย่างโชกโชน เช่น บริษัท Oracle ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ระดับ Top 5 ของโลก

ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวสำหรับโปรไฟล์และความสามารถของ Co-founder ทั้ง 3 คนของบริษัท เอาล่ะมาทำความรู้จักกับตัวบริษัท Looloo Technology กันดีกว่า

แล้วการทำงานสไตล์ Looloo Technology ล่ะเป็นอย่างไร?

ถ้าให้นิยามแบบง่ายๆ Looloo Technology คือบริษัท Deep Tech Startup Consulting Firm ที่มีความเชี่ยวชาญและมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning, Data Science, Data Security และ Design Thinking เพื่อปฏิวัติทุกอุตสาหกรรมให้ล้ำสมัยกว่าที่เคย

ด้วยความเชี่ยวชาญทางด้าน Deep Tech และ Design Thinking ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับทุกบริษัทในยุค Digital Transformation ทำให้ Looloo Technology ได้พบกับลูกค้าชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการที่จะดิสรัปตัวเองให้ได้ก่อนใครอื่นด้วยโซลูชันใหม่ๆ เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจไปต่อได้ในที่ยุค AI ได้เข้ามามีบทบาทและกลายเป็นส่วนสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ในทุกธุรกิจ

และถึงแม้ว่าจะมีลูกค้ามากมายที่ให้ความสนใจและอยากใช้บริการของ Looloo Technology อย่างล้นหลาม แต่ก็ใช่ว่าทางบริษัทจะรับทำโปรเจคไปเสียทุกงาน นั่นก็เพราะทางบริษัทเองได้ยึดถือแนวทางที่ว่า

“เลือกทำเฉพาะโปรเจคที่น่าสนใจ มีความท้าทาย ไม่เคยมีใครทำมาก่อน และสามารถสร้างอิมแพคให้กับโลกใบนี้ได้จริงๆ”

นอกจากจะเลือกทำเฉพาะโปรเจคที่น่าสนใจ มีความท้าทาย ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

และสามารถสร้างอิมแพคให้กับโลกใบนี้ได้จริงๆ แล้ว สิ่งที่ทำให้ Looloo Technology มีความแตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ก็คือการมี Design Strategist อย่างคุณปริชา ดวงทวีทรัพย์ นักวิจัยด้านการออกแบบและผู้ร่วมก่อตั้ง Amplifi Design พาร์ทเนอร์คนสำคัญที่มุ่งเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางเพื่อขยายศักยภาพด้านนวัตกรรมทางธุรกิจ นั่นเพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่า

“การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายล้วนต้องเริ่มต้น จากการทำความเข้าใจผู้คนให้ได้อย่างถ่องแท้เสียก่อน”

อาจบอกได้ว่า การทำความเข้าใจผู้คนนั้นมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการทำความเข้าใจโซลูชันทางเทคนิคต่างๆ เป้าหมาย ความต้องการ และความท้าทายทางธุรกิจของลูกค้าเลยทีเดียว

การนำแนวคิดในการออกแบบที่คำนึงและยึดถือผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า “Human Centric” หรือ “Human-Centered Design” เข้ามาผสมผสานกับนวัตกรรม Deep Tech อย่างกลมกลืน ลึกซึ้ง และชาญฉลาดจนทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Looloo Technology ที่ส่งถึงมือลูกค้านั้นนอกจากจะมีความล้ำและนำสมัยแล้วก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าจริงๆ อีกด้วย

หากมองให้ลึกลงไป สิ่งที่ Looloo Technology ทำไม่ได้จบลงที่เพียงแค่การสร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันล้ำๆ แต่เพียงเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องทำงานให้ลึกและละเอียดลออลงไปอีกขั้นผ่าน Design Thinking เพื่อให้พวกเขาได้มั่นใจว่า เข้าใจผู้ใช้งานจริงๆ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการปรับแต่งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าในรูปแบบที่เหมาะสมมากที่สุด

กว่าจะออกมาเป็นนวัตกรรมที่พลิกโฉมธุรกิจต่างๆ ทางทีมต้องผ่านการทำงานมากมายหลายกระบวนเพื่อสร้างอิมแพคที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานเลยทีเดียวล่ะ

ต้องบอกว่าการทำงานของ Looloo Technology นั้นเป็นแบบ one stop service ชนิดที่ครบเครื่องเรื่อง Deep Tech เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการทำรีเสิร์จว่าลูกค้าต้องการอะไรก่อนที่จะเริ่มปรับใช้ Deep Tech ในผลิตภัณฑ์ อะไรคือ Pain Points ของลูกค้า อะไรคือความท้าทายที่ลูกค้ากำลังประสบอยู่ และ Deep Tech แบบไหนที่จะเข้ามาแก้ปัญหาที่ว่านี้ได้ ซึ่งตรงส่วนนี้เองก็เป็นหน้าที่ของทีม Design Thinking ที่จะเข้ามาวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าของลูกค้า เพื่อให้เกิดโซลูชันที่ดีที่สุด เข้าถึงความต้องการและเข้าอกเข้าใจมนุษย์ได้มากที่สุด เพื่อสร้างประสบการณ์ยอดเยี่ยมแบบไร้รอยต่อให้กับผู้ใช้งาน

คติการทำงานของ Looloo Technology ก็คือการเริ่มต้นด้วยถามคำถามว่า “ทำไม” ร่วมกับลูกค้าอยู่เสมอ  เพราะการระบุเป้าหมายและทำความเข้าใจเป้าหมายและความต้องการของลูกค้าให้ชัดเจนนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของการสร้างสรรนวัตกรรม เพราะหากไร้ซึ่งเป้าหมายที่ชัดเจนจากลูกค้าแล้ว นวัตกรรมที่ถูกรังสรรออกมาคงไม่อาจเข้าถึงผู้คนได้อย่างแท้จริง และเพื่อสร้างโซลูชันที่มีความหมาย และมีอิมแพคต่อผู้คนจริงๆ Design Thinking จึงเปรียบเสมือนกุญแจไขประตูสู่หัวใจของนวัตกรรมที่ Looloo Technology

หลังจากเข้าใจผู้ใช้งานผ่าน Design Thinking แล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของทีมออกแบบ (UX/UI Designer) ที่จะเข้ามาช่วยรังสรรให้ตัวผลิตภัณฑ์และแอปพลิเคชันมีหน้าตาที่น่าใช้งาน เข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่าย ใช้งานได้สะดวก เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางของผู้ใช้งาน (User Journey) ที่มีความลื่นไหลและราบรื่นที่สุด

หลังจากทีมออกแบบทำหน้าที่เสร็จแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ทีมพัฒนา ไม่ว่าจะเป็น Programmer, Software Engineer และ Data Scientist ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของแต่ละโปรเจค ที่จะต้องเข้ามาสานต่องานให้เกิดผลิตภัณฑ์ขึ้นมาและสามารถใช้งานได้จริง ไร้บัค และไร้ข้อบกพร่อง

และแล้วก็เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายซึ่งก็จะเป็นหน้าที่ของทีมดูแลระบบ (Admin) ที่จะคอยดูแลและควบคุมระบบให้เกิดความเสถียรต่อผู้ใช้งานมากที่สุด

ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็หมายความว่า Looloo Technology ก็ดึงดูดความสนใจของคนสายเทคแบบคุณไปได้ไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ?

ถ้าใช่แล้วล่ะก็ อย่ารอช้า! เพราะตอนนี้ Looloo Technology กำลังเปิดรับสมัครงานอีกหลายตำแหน่งเพื่อรองรับโปรเจคที่จะเกิดขึ้นในอีกมากมายในภายภาคหน้า! 

ถ้าคุณเป็นอีกหนึ่งคนสายเทคที่มีความสามารถและอยากใช้ความที่พุ่งพล่านอยู่ในตัวเพื่อสร้างอิมแพคให้กับโลกใบนี้ได้จริงๆ แล้วล่ะก็ โอกาสอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว คว้ามันซะ! แล้วมาเป็นทีมเดียวกับ Looloo Technology ได้ผ่านลิงก์นี้เลย! >>>  https://forms.gle/ipgaWxjkPRy7vBKw9

ไม่อยากพลาดความรู้ และกิจกรรมดีๆ เกี่ยวกับ #Startup ติดตามได้ที่เพจ KX Knowledge Xchange