ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญ การแปลงข้อความเอกสารจากกระดาษ ทั้งลายมือและตัวพิมพ์ ให้อยู่ในรูปแบบของข้อความดิจิทัล (Optical Character Recognition หรือ OCR) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของหลายอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม OCR ไม่เพียงแต่ช่วยแปลงข้อมูลจากให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายขึ้นเท่านั้น หากยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ลดเวลาการทำงานและเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ
รายงานอุตสาหกรรมในปี 2023 แสดงให้เห็นว่ามีการนำเทคโนโลยี OCR เข้ามาใช้ทำงานในกลุ่มธุรกิจ BFSI มากขึ้น ซึ่งได้แก่ การธนาคาร (Banking) , การบริการทางการเงิน (Financial Services) และกลุ่มธุรกิจประกันภัย (Insurance) โดยกลุ่มธนาคารครองแชมป์อันดับหนึ่งที่นำ OCR เข้ามาช่วยเพิ่มกำไรและลดต้นทุน
อุตสาหกรรมอะไรบ้าง? ที่ใช้เทคโนโลยี AI : OCR สร้างกำไรให้ธุรกิจ
ด้วยการแปลงข้อความจากเอกสารในรูปแบบต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปแบบข้อความดิจิทัล ได้รวดเร็วและแม่นยำ OCR จึงกลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้อย่างมหาศาล ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่ามีกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ หันมาใช้ประโยชน์จาก OCR เพื่อสร้างกำไรและสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยี AI : OCR ด้านธนาคารและการเงิน
การเงินและการธนาคารเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์อย่างมากจากเทคโนโลยี OCR เนื่องด้วยรูปแบบธุรกิจ ที่จำเป็นต้องจัดการกับงานเอกสารจำนวนมากด้วยความแม่นยำสูง ดังนั้น การนำเทคโนโลยี OCR เข้ามาใช้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงยกระดับการบริการให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น และช่วยเพิ่มความพึงพอใจในระยะยาว
ตัวอย่าง Use Case เทคโนโลยี AI : OCR ด้านธนาคารและการเงิน
1. OCR อ่านและประมวลผลใบสมัครบัตรเครดิตที่ลูกค้าเขียนด้วยลายมือ ลดความผิดพลาดที่เกิดจากการอ่านและกรอกข้อมูลด้วยคน Human error นอกจากนี้การใช้ OCR ยังช่วยให้กระบวนการต่าง ๆ จบได้ไวมากขึ้น ยกตัวอย่างกรณีจากลูกค้าของ OCR by WordSense ที่นำเอาระบบ OCR ของเราไปใช้ในการอ่านใบสมัครบัตรเครดิต พบว่าสามารถลดจำนวนพนักงานจากเดิม 30 คน ให้เหลือเพียง 3 คน ลดต้นทุนได้กว่า 90%
ใบสมัครบัตรเครดิตที่ลูกค้าเขียนด้วยลายมือที่ถูกอ่านด้วย OCR by WordSense แบบเลือกเฉพาะจุด
2. OCR ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการเงิน เช่น เช็ค ใบแจ้งยอดบัญชี และสัญญาการเงินต่าง ๆ โดยระบบ OCR จะช่วยตรวจจับความผิดปกติของเอกสารและการปลอมแปลงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพิ่มความปลอดภัยให้กับธุรกรรมทางการเงินมากขึ้น
เทคโนโลยี AI : OCR ด้านโลจิสติกส์และขนส่ง
จากรายงาน McKinsey พบว่าเศรษฐกิจของอเมริกาสูญเสียเงินกว่า 9,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี เพราะความล่าช้าในการจัดส่ง, พัสดุสูญหาย, การสื่อสารที่ผิดพลาดรวมถึงระบบการกระจายพัสดุที่ใช้เวลานาน นอกจากนี้ข้อมูลจากสำนักสถิติการขนส่งของอเมริกา ยังชี้ว่าปริมาณการขนส่งสินค้าในเดือนตุลาคม 2023 เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยตัวเลขเหล่านี้คาดการณ์ถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมนี้
แน่นอนว่าทุกการเติบโตย่อมมาพร้อมความก้าวหน้า เทคโนโลยี AI : OCR คือเครื่องมือสำคัญที่จะเข้าเข้ามาช่วยปฏิวัติการทำงานด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง ให้บริษัทจัดการกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดเวลาการทำงานและลดความผิดพลาดในการจัดส่ง
ตัวอย่าง Use Case เทคโนโลยี AI : OCR ด้านโลจิสติกส์และขนส่ง
1. OCR อ่านข้อมูลบนพัสดุ และการจ่าหน้าซอง ส่วนใหญ่แล้วขั้นตอนการอ่านข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชื่อหรือที่อยู่ผู้รับ มักเป็นกระบวนการที่พนักงานทีละคนต้องทำทีละขั้นตอนด้วยมือ การนำเทคโนโลยี OCR มาช่วยอ่านและประมวลผลข้อมูลจะทำให้กระบวนการจัดส่งเร็วขึ้น และลดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ นอกจากนี้ OCR เองยังอ่านบาร์โค้ดและ QR code ได้แม่นยำ ให้การติดตามสถานะพัสดุเป็นไปแบบเรียลไทม์
OCR by WordSense อ่านข้อมูลพัสดุ
2. OCR ช่วยคัดแยกพัสดุในโกดัง เทคโนโลยี OCR อ่านชื่อที่อยู่หน้ากล่องพัสดุ พร้อมจัดประเภทพัสดุได้ทันทีด้วยความแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพจัดการและลดเวลาคัดแยกพัสดุ ที่สำคัญระบบ OCR ทำงานได้ 24 ชั่วโมงแบบไม่มีวันหยุด เป็นตัวช่วยสำคัญในการรองรับปริมาณพัสดุที่เพิ่มขึ้นช่วงเทศกาลหรือช่วงส่งเสริมการขายพิเศษ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3. OCR จัดการเอกสารด้านการขนส่ง ระบบจะเข้ามาช่วยอ่านข้อมูลเอกสาร และการจัดส่งเข้าสู่ระบบโดยอัตโนมัติ โดยเอกสารในส่วนนี้จะเป็นพวกใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading) ใบกำกับสินค้า (Invoice) และเอกสารศุลกากร ให้การจัดการเอกสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความล่าช้าในกระบวนการขนส่งและการนำเข้า-ส่งออก
เทคโนโลยี AI : OCR ด้านบัญชีและการเงิน
ปฏิเสธไม่ได้ว่างานด้านบัญชีและการเงินเป็นหัวใจสำคัญทุกธุรกิจ ทว่าเป็นงานที่ใช้เวลาและเกิดข้อผิดพลาดสูงหากทำด้วยมือ อ้างอิงจากข้อมูลของ Gartner ปี 2024 พบว่า 18% ของนักบัญชีทำผิดพลาดอย่างน้อยวันละครั้ง ซึ่งอย่าลืมว่าสำหรับงานบัญชีแล้ว ข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็สามารถกลายเป็นหายนะสำหรับองค์กรได้
ดังนั้น การเข้ามาของเทคโนโลยีAI : OCR จะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักบัญชีและผู้จัดการด้านการเงิน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูล ลดเวลาการทำงาน ด้วยระบบ OCR ที่จะคอยดึงและจัดระเบียบข้อมูลจากเอกสารบัญชีให้โดยอัตโนมัติ ให้พนักงานเอาเวลาไปวิเคราะห์ข้อมูลหรือตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญ
ตัวอย่าง Use Case เทคโนโลยี AI : OCR ด้านบัญชีและการเงิน
1. OCR แปลงข้อความใบแจ้งหนี้และใบเสร็จเป็นข้อความดิจิทัล ระบบ OCR ในปัจจุบันเรียนรู้รูปแบบของเอกสารบัญชีที่หลากหลาย ทำให้สามารถประมวลผลใบแจ้งหนี้จากซัพพลายเออร์ที่แตกต่างกันได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังช่วยลดเวลาที่ใช้ในการป้อนข้อมูลด้วยมือ ทำให้การจัดการทางการเงินรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
OCR by WordSense อ่านใบแจ้งหนี้ ทางบัญชี
2. OCR ประมวลผลเอกสารทางการเงิน เช่น งบการเงิน รายงานการเงิน และเอกสารทางบัญชีอื่น ๆ ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดความซับซ้อนของระบบการทำงาน นอกจากนี้ระบบ OCR ยังทำงานร่วมกับระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อสร้างรายงานและวิเคราะห์แนวโน้มทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
3. OCR ช่วยค้นหาข้อมูลและตรวจสอบเอกสารบัญชี เทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นประโยชน์มากสำหรับงานที่ต้องใช้เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมาก เช่น การตรวจสอบภายใน การตรวจสอบบัญชี การทำรายงานการเงิน เป็นต้น ช่วยให้คนทำงานประหยัดเวลา และลดทรัพยากรบุคคลในการตรวจสอบ
4. OCR ตรวจสอบเอกสารให้เป็นไปตามกฎระเบียบ ระบบจะคอยตรวจจับข้อมูลสำคัญ และแจ้งเตือนเมื่อพบความไม่สอดคล้องหรือข้อมูลที่อาจเป็นปัญหา รวมถึงคอยจัดการเอกสารให้เป็นไปตามกฎระเบียบทางการเงินและบัญชี เช่น มาตรฐานการบัญชี กฎหมายภาษี ฯลฯ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะผิดพลาด
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง เทคโนโลยี AI : OCR เครื่องมือเปลี่ยนงานเอกสาร เป็นข้อความดิจิทัล ช่วยองค์กรประหยัด 30%
สรุปเทคโนโลยี AI : OCR ในอนาคต
การนำ OCR มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการปรับตัวให้ธุรกิจพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ และคว้าโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ในอนาคตคาดว่าจะเห็นการพัฒนาของ OCR ที่ก้าวกระโดดมากขึ้น โดยอีก 3 ปีข้างหน้า พบว่า 27% ของแต่ละธุรกิจเริ่มวางแผนที่จะใช้ OCR มากขึ้น โดยแรงจูงใจหลักที่ทำให้ใช้คือ “ลดต้นทุน” (ลดได้ 31%)
นอกจากนี้เชื่อว่า อนาคตคงเห็น OCR ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มากขึ้น ซึ่งหมายความว่าขีดความสามารถและประโยชน์ OCR ในการขับเคลื่อนธุรกิจก็จะยิ่งทรงพลังกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นลดเวลา ลดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อน ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเทคโนโลยี OCR จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ขาดไม่ได้ในยุคดิจิทัลนี้
———
Looloo Technology is a leading AI consulting company, renowned for delivering cutting-edge and customized AI and Data Analytics solutions, with expertise in predictive analytics, natural language processing (NLP), intelligent document processing (IDP), and automatic speech recognition (ASR), Our application of design thinking methodology ensures a deep understanding of our clients, complemented by a strategic consulting approach to identify areas for maximal impact. Emphasizing rigorous user testing, we fine-tune our solutions to precisely meet the users needs.
Our team is a collective of exceptional individuals with global experience handpicked from top institutions. Their relentless pursuit of excellence and commitment to innovation is what sets us apart and help bring our clients substantial growth and profitability.
🌐 Website : www.loolootech.com
📱 Facebook : Looloo Technology
📸 Instagram : loolootech
TikTok: @loolootech