ในโลก ธุรกิจดิจิทัล การจัดการเอกสารแบบเดิมถือเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตขององค์กร เทคโนโลยี AI OCR (Optical Character Recognition) จึงมีบทบาทสำคัญช่วยแปลงข้อความในเอกสารให้เป็นข้อมูลดิจิทัลอย่างแม่นยำ รายงานจาก Gartner ระบุว่าความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดของมนุษย์ในกระบวนการนี้ทำให้องค์กรสูญเสียเงินเฉลี่ย 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 500 ล้านบาทไทย
ความสำคัญของ AI : OCR ในยุคดิจิทัล
การจัดการเอกสารแบบเดิมมักประสบปัญหาหลายประการ เช่น เอกสารสูญหาย การค้นหาข้อมูลที่ล่าช้า และข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการนำ AI : OCR มาใช้ โดยเทคโนโลยีนี้ใช้ ปัญญาประดิษฐ์ จดจำและแปลงตัวอักษรจากเอกสารเป็นข้อความดิจิทัล ช่วยให้องค์กรจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และประหยัดทรัพยากรได้อย่างมาก
นอกจากการแก้ปัญหาพื้นฐานแล้ว ระบบ AI : OCR ยังมีศักยภาพมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดต้นทุนจัดการเอกสาร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเปิดโอกาสในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจทางธุรกิจที่แม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยศักยภาพที่หลากหลาย ทำให้ความสำคัญของ AI : OCR เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในยุคดิจิทัล สอดคล้องกับการสำรวจของ Grandviewresearch ซึ่งคาดการณ์ว่าตลาด OCR ในเอเชียจะเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 14.8% ระหว่างปี 2023 ถึง 2030 แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาด
กราฟแสดงการเติบโตของตลาด OCR ในเอเชีย ช่วงปี 2023-2030
ขั้นตอนการเลือกและนำ AI : OCR มาใช้ในองค์กร
1. ประเมินความต้องการขององค์กร
-
- วิเคราะห์ปริมาณและประเภทของเอกสาร จากนั้นคำนวณค่าจ้าง Man-hours ที่ใช้กรอกเอกสาร รวมถึงประเมินมูลค่าเพิ่มจากความเร็วและความแม่นยำของระบบ OCR ว่ามีมูลค่าเป็นจำนวนเงินเท่าใด
- ต้องการความแม่นยำสำหรับเอกสารเหล่านี้แค่ไหน
- กำหนดเป้าหมายสำหรับการนำ AI : OCR มาใช้ เช่น ลดเวลาการป้อนข้อมูลของพนักงานลง 50% แต่ยังต้องมีพนักงาน QC ตรวจเช็กขั้นตอนสุดท้าย
2. ทดสอบและเปรียบเทียบโซลูชัน AI : OCR
-
- ทดลองใช้งานระบบ AI OCR จากผู้ให้บริการหลายราย *ใช้งานฟรี Demo OCR by WordSense Wordsense by Looloo
- เปรียบเทียบประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และความเข้ากันได้กับระบบที่มีอยู่
3. ฝึกอบรมและทำความเข้าใจกับพนักงานเรื่องการนำ AI : OCR มาใช้ในองค์กร
-
- ฝึกอบรมการใช้งานระบบใหม่ให้กับพนักงาน
- สื่อสารถึงประโยชน์และความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงให้ทั่วทั้งองค์กร
5 ปัจจัยการเลือก AI : OCR สำหรับองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
- ความแม่นยำ เลือกใช้ AI : OCR ที่แม่นยำสูง ซึ่งสำคัญสำหรับองค์กรที่มีเอกสารซับซ้อน รวมถึงต้องพิจารณาถึงขอบเขตของคำ ในเอกสารที่ต้องการแปลงด้วยว่าเป็นคำเฉพาะหรือเปลี่ยนแปลงได้ อย่างเอกสารบัญชีใช้คำว่า “ชื่อผู้ขาย” “ผู้ขาย” หรือ “Seller’s name” กรณีแบบนี้ควรใช้ Semi-structure OCR อย่าง OCR by WoreSense เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
- รองรับภาษาและรูปแบบเอกสารที่หลากหลาย ระบบ AI : OCR ควรอ่านได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมถึงรองรับรูปแบบเอกสารต่างๆ ได้ เช่น PDF JPEG TIFF สำหรับเอกสารสแกน หรือ Word, Excel สำหรับเอกสารออฟฟิศ รวมถึงแบบฟอร์มรูปแบบกึ่งโครงสร้าง เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จ หรือเอกสารที่เขียนด้วยลายมือ
- ความเร็วการประมวลผล : ความสามารถด้านจัดการเอกสารจำนวนมากในเวลาอันสั้น เช่น บริษัทประกันที่ต้องประมวลผลแบบฟอร์มเคลมประกันนับพันฉบับต่อวัน
- ความปลอดภัยของข้อมูล ตรวจสอบมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยและการเข้ารหัสข้อมูลของบริษัท รวมถึงการรับรองมาตรฐาน ISO ทั้งนี้หากข้อมูลไม่สามารถออกนอกระบบของบริษัทได้ จำเป็นต้องใช้การ Host โมเดลแบบ On-premise แทนที่จะเป็น On-cloud และไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Gen AI ภายนอกได้ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ
- การใช้งานร่วมกับระบบที่มีอยู่ บูรณาการกับระบบจัดการเอกสาร ERP หรือระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ที่องค์กรใช้อยู่ได้
วิธีการเลือกบริษัท AI : OCR ที่เหมาะสมกับองค์กรของตนเอง
- ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เลือกบริษัทที่มีประวัติการทำงานที่ดี รวมถึงตรวจสอบผลงานที่เกี่ยวข้องกับตนเอง บริษัทที่มีประสบการณ์เฉพาะทางจะเข้าใจความต้องการเฉพาะธุรกิจคุณได้ดีกว่า
- การสนับสนุนและบริการหลังการขาย พิจารณาคุณภาพการสนับสนุนทางเทคนิค ความถี่ในการอัปเดตระบบ และเวลาตอบสนองต่อปัญหา นอกจากนี้ทีมสนับสนุนที่ดีจะช่วยให้การใช้งาน OCR มีประสิทธิภาพ ตลอดจนตรวจสอบการรับประกัน วิธีการตรวจรับ และการวัดประสิทธิภาพของระบบด้วย
- ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง ระบบปรับแต่งให้เข้ากับกระบวนการทำงานและระบบที่มีอยู่ขององค์กรได้หรือไม่ โดยความยืดหยุ่นนี้จะช่วยให้การนำ OCR มาใช้ในองค์กรตรงตามความต้องการมากที่สุด
- ราคาและรูปแบบการคิดค่าบริการ เช่น คิดราคาตามจำนวนเอกสาร หรือการสมัครสมาชิกรายเดือน / รายปี เลือกแผนที่เหมาะกับการใช้และงบขององค์กร โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในระยะยาว รวมถึงค่าบำรุงรักษาและการอัปเกรดในอนาคต
- ทดลองใช้งานก่อนตัดสินใจ OCR by WordSense บริษัทในเครือ Looloo Technology หนึ่งในผู้นำตลาด OCR ของไทยในปัจจุบัน โดดเด่นด้วยความแม่นยำสูงในการอ่านลายมือภาษาไทย ที่สามารถแปลงลายมือเป็นข้อความดิจิทัลแม่นยำ ด้วยค่าความแม่นยำตั้งต้นที่ 92% สำหรับ OCR Handwriting และ 95% สำหรับ OCR Typed ที่แปลงตัวพิมพ์ภาษาไทยเป็นข้อความดิจิทัล ยิ่งใช้งานระบบ OCR มากเท่าไร ระบบก็จะยิ่งเรียนรู้และพัฒนาความแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ
ฟรี! ทดลองใช้ระบบ OCR by WordSense ไม่เก็บข้อมูล ไม่จำกัดขนาดของข้อมูล
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Demo OCR, E-Mail หรือโทร. 02-028-7557 และ คลิกที่นี่
อ้างอิง
—————————————–
Looloo Technology is a leading AI consulting company, renowned for delivering cutting-edge and customized AI and Data Analytics solutions, with expertise in predictive analytics, natural language processing (NLP), intelligent document processing (IDP), and automatic speech recognition (ASR), Our application of design thinking methodology ensures a deep understanding of our clients, complemented by a strategic consulting approach to identify areas for maximal impact. Emphasizing rigorous user testing, we fine-tune our solutions to precisely meet the users needs.
Our team is a collective of exceptional individuals with global experience handpicked from top institutions. Their relentless pursuit of excellence and commitment to innovation is what sets us apart and help bring our clients substantial growth and profitability.
🌐 Website : www.loolootech.com
📱 Facebook : Looloo Technology
📸 Instagram : loolootech
TikTok: @loolootech
