Deep Tech นวัตกรรมแสนลุ่มลึกแห่งโลกเทคโนโลยี

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า AI, Big Data, Blockchain และศัพท์สายเทคอื่นๆ อีกมากมายที่กลายเป็น Buzz Word กันไปทั่วบ้านทั่วเมืองจนหลายคนน่าจะรู้จักกันหมดแล้ว แต่สำหรับคำว่า “Deep Tech” น่าจะยังคงมีอีกคนหลายคนที่เพิ่งเคยได้ยินหรือนึกภาพไม่ออกว่า เจ้า Deep Tech นี่มันคืออะไรนะ? แล้วไอ้ที่ว่า Deep นี่มัน Deep อย่างไรนะ? วันนี้ KX Knowledge Xchange มีคำตอบมาให้คุณได้รู้กัน รับรองว่ากระจ่างแจ้งอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย

ทำความรู้จักกับ Deep Tech นวัตกรรมสายลึก

Deep Tech หรือ Deep Technology หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Hard Tech คือ “เทคโนโลยีขั้นสูง” ที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นด้วยนวัตกรรมทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ขั้นสูงเพื่อค้นหาโซลูชันใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาเฉพาะด้านที่เทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่สามารถแก้ได้

ไดอะแกรมแสดงถึง 3 แนวทางของ Deep Tech

จาก: https://bit.ly/33kQmCM

ไดอะแกรมแสดงถึง 3 แนวทางสำคัญที่มีจุดร่วมเดียวกันของ Deep Tech

ตัวโมเดลธุรกิจของบริษัท Deep Tech นั้นมีการนำวัตกรรมที่ล้ำสมัยในหลากหลายแขนงเข้ามาใช้งาน ซึ่งก็รวมไปถึงผู้มีความรู้ด้านเทค หรือ Tech Talent เพื่อบุกเบิกโซลูชันใหม่ๆ เพื่อพลิกโฉมและยกเครื่องอุตสาหกรรมเดิมๆ ให้กลายเป็นอุตสาหกรรมใหม่ ด้วยการทำงานที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วยการแก้ไขปัญหาคอขวดที่เคยมีอยู่ในโครงสร้าง

ตัวอย่างเทคโนโลยี Deep Tech
  • Artificial Intelligence (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือ ศาสตร์ของการสร้างคอมพิวเตอร์หรือเครื่องจักรให้มีความสามารถและมีสติปัญญาเทียบเท่า ราวกับ หรือเหนือกว่ามนุษย์
  • Big Data หรือ บิ๊กดาต้า คือ ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวข้อมูลเองประกอบไปด้วยลักษณะอย่างน้อย 5 ประการ คือมีปริมาณขนาดใหญ่มหาศาลนับไม่ถ้วน (Volume) มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วฉับพลัน ต่อเนื่องตลอดเวลา (Velocity) มีความไม่น่าเชื่อถือ (Untrusted) เพราะยังไม่ผ่านการคัดกรอง แต่ก็ไม่ไ่ด้ผ่านการเติมแต่ง (Veracity) และสุดท้ายมีหลากหลายประเภทและมาจากแหล่งที่มา (Variety)
  • Machine Learning หรือ การเรียนรู้ของเครื่อง คือ ระบบที่เปรียบเสมือนมันสมองของปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถเรียนรู้อย่างซ้ำๆจากตัวอย่างชุดข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าอยู่ ได้ด้วยตนเองจนสามารถทำนายผลลัพธ์ออกมาได้อย่างแม่นยำ
  • Blockchain หรือ บล็อกเชน คือ เทคโนโลยีเครือข่ายการเก็บข้อมูลบัญชีรูปแบบหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการทำธุรกรรมโดยที่ไม่ต้องอาศัยตัวกลาง นั่นเพราะผู้ใช้งานทุกคน ในระบบสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูลแบบเดียวกันทั้งหมด ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่ว่านี้จะถูกบรรจุอยู่ภายในแต่ละบล็อก (Block) ที่เชื่อมโยงถึงกันตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต เหมือนดั่งห่วงโซ่ (Chain) ที่ร้อยเรียงต่อกันไปไม่รู้จบ
  • Computer Vision หรือ คอมพิวเตอร์วิทัศน์ คือ การฝึกฝนให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถรับรู้และตอบสนองต่อข้อมูลภาพจากโลกแห่งความเป็นจริง (ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว) ได้อย่างชาญฉลาด เปรียบเสมือนการทำให้คอมพิวเตอร์สามารถมองเห็นได้เทียบเท่าหรือดีกว่ามนุษย์
  • Cyber Security หรือ การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ คือ เทคโนโลยี หรือมาตรการที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันระบบ, เครือข่าย, อุปกรณ์, โปรแกรม และข้อมูลสำคัญต่างๆ จากการถูกโจมตี เข้าถึง หรือจารกรรมจากบุคคลที่สาม (อาชญากร)
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

 

กว่าจะออกมาเป็นนวัตกรรม Deep Tech

แต่กว่าจะออกมาเป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้าน Deep Tech อย่างที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ นวัตกรรม Deep Tech ต้องผ่านขั้นตอนการค้นคว้าวิจัย ออกแบบ และพัฒนาที่มีความสลับซับซ้อน ซึ่งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เชิงลึกมาทำงานในด้านนี้เป็นระยะเวลานานด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุผลที่ว่ามา ทำให้ Deep Tech เป็นนวัตกรรมที่ลอกเลียนแบบได้ยาก หาตัวผู้เชี่ยวชาญทำตามได้ไม่ง่าย ใช้เทคโนโลยีที่มีความเฉพาะตัว มีความเสี่ยงในการวิจัยและพัฒนาสูง ทำให้ธุรกิจทางด้านมีคู่แข่งน้อยรายในตลาด ถ้าบอกว่า Deep Tech ยังเป็น Blue Ocean ในประเทศไทยก็คงไม่ผิดนัก เพราะตัวธุรกิจนั้นเต็มไปด้วยโอกาสและความเป็นไปได้อีกมากมายในอนาคตที่รอการค้นพบอยู่

Deep Tech มหาสมุทรลึกแห่งนวัตกรรม พื้นที่ล้ำค่าที่ยังรอคอยการสำรวจ

หลายคนน่าจะเคยได้ยินมาว่า โลกของเรามีพื้นที่ที่เป็นมหาสมุทรมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ แต่มนุษยชาติกลับสำรวจพื้นที่มหาสมุทรไปได้แค่เพียง 5 เปอร์เซ็นต์เพียงเท่านั้น และ โลกแห่งนวัตกรรม Deep Tech ก็เป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน

จาก: https://on.bcg.com/3GPma1e

จากชาร์ตด้านบน เราจะเห็นได้ว่า บริษัททางด้าน Deep Tech (แท่งสีเขียวเข้ม) นั้นสามารถดึงดูดเม็ดเงินจากกองทุนการลงทุนส่วนบุคคลได้มากกว่าเทคโนโลยีทั่วไปอยู่มากเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะ Deep Tech ยังมีพื้นที่ล้ำค่าที่เต็มไปด้วยโอกาสอีกมากมายที่รอให้มนุษยชาติได้เสาะแสวงหา

ถึงแม้ว่านี่อาจจะดูเป็นการลงทุนที่ดูเต็มไปด้วยความเสี่ยงเพราะหลายๆ นวัตกรรมก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และจากชาร์ตด้านล่าง เราจะเห็นได้ว่า  Deep Tech Startups มีวงจรในการการวิจัยและพัฒนาที่ยาวนานกว่า ใช้เวลาและเงินทุนที่นานกว่า บริษัท Startup ทั่วๆ ไป แต่ทุกความเสี่ยงและระยะเวลาการพัฒนายาวมาก็แลกมาด้วยอัตราการเติบโตที่สูงกว่า Tech Startups ทั่วๆ ไปอีกด้วยเช่นกัน

จาก: https://dealroom.co/blog/2021-the-year-of-deep-tech

หลังจากได้ทำความรู้จักกับ Deep Tech กันอย่างเต็มอิ่มแล้ว คราวหน้าเราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับ Deep Tech Startup ตัวจริงเสียงจริงที่มีการเติบโตแบบ S Curve ท่ามกลางวิกฤติการณ์โควิด-19 อย่าลืมติดตามเพจ KX Knowledge Xchange พื้นที่แห่งการเรียนรู้ innovation and entrepreneurship ที่ดีที่สุดในประเทศไทย เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดบทความสายเทคเจ๋งๆ ก่อนใคร

หากสนใจเรื่อง  DeepTech ติดตาม Looloo Technology หนึ่งใน KX Community สตาร์ทอัพผู้เชี่ยวชาญด้าน DeepTech ที่มี Vision แน่วแน่ และความตั้งใจที่อยากจะยก Silicon Valley ให้มาอยู่ในไทย พร้อมสร้างนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน!

Facebook : https://www.facebook.com/loolootech
Instagram : https://www.instagram.com/loolootech/
LinkedIn : https://www.linkedin.com/company/loolootech/
สนใจร่วมงานกับ looloo สามารถส่ง Resume /กรอกใบสมัครได้ที่ : jobs@loolootech.com หรือ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdTm61JCURCfGdrlczOZvZsZa6nTakTcXWZorZze4Opp_0cyw/viewform?fbclid=IwAR1I8YsJx_XeGG-ZaAmBZh4n0n8-kDqrImYOKwNC3IvnNsCuQGrcbHRl0BE&pli=1 ได้เลยค่ะ/ครับ